เดินป่า + ล่องแพ ใกล้ชิดป่าเขาและสายน้ำ โป่งแง้น … บ้านเล็กในป่าใหญ่ (แม่แตง - เชียงใหม่)


โป่งแง้น ... บ้านเล็กในป่าใหญ่

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ps9kSwwgvpyLXxqJ8

“โป่งแง้น” หมู่บ้านเล็ก ๆ ของชนเผ่าลาหู่ ตั้งอยู่กลางป่าใหญ่ ริมแม่น้ำแม่แตง ทั้งหมู่บ้านมีบ้านแค่สิบกว่าหลัง มีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่กี่สิบชีวิต ไม่มีไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์มีเพียงจุดเดียวในหมู่บ้านคือบริเวณป้ายทางเข้าหน้าหมู่บ้าน

การเดินทางมายัง “โป่งแง้น” มี 2 วิธี คือ
1. เดินเท้าเข้าป่าข้ามเขา ระยะทาง 4 และ 6 กิโลเมตร (แล้วแต่จะเลือกเดิน) มีชาวบ้านในพื้นที่นำทาง
2. ถ่อแพตามลำน้ำแม่แตงจากหมู่บ้านที่อยู่ต้นน้ำ ระยะทาง 9 กิโลเมตร มายังโป่งแง้น มีชาวบ้านในพื้นที่เป็นคนถ่อแพหลัก แต่ต้องมีนักท่องเที่ยวช่วยถ่ออีกหนึ่งมือตำแหน่งท้ายแพ

ใครที่ชอบท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ได้ความตื่นเต้นและเหนื่อยนิด ๆ พอให้ชีวิตมีรสชาติและสีสันจากการเดินป่าและถ่อแพ การมาเยือนโป่งแง้นถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก ตามมาเที่ยวและเก็บข้อมูลการเดินทางด้วยกันในรีวิวค่ะ

การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่-โป่งแง้น (ระยะทาง 73 กิโลเมตร)

(ช่วงที่ 1 ตัวเมืองเชียงใหม่-บ้านสบก๋าย)
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ผ่าน อ.แม่ริม ตลาดแม่มาลัย อ.แม่แตง จนถึงบ้านแม่ตะมาน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบท ชม.3052 (ตามป้ายบอกทางไป บ้านแม่ตะมาน ปางช้างแม่ตะมาน ปางช้างแม่แตง ฯลฯ) ตรงเข้ามาเป็นถนนลาดยางตลอดสาย ระยะทาง 24 กิโลเมตร จนถึงหมู่บ้านสบก๋าย ซึ่งเป็นจุดปลายน้ำของการล่องแพและเป็นจุดจอดรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถโฟร์วีล (ทางที่พักที่โป่งแง้นจะประสานจัดหารถโฟร์วีลรับส่ง) ให้ไปส่งยังจุดเดินเท้าข้ามเขาไปโป่งแง้น หรือไปส่งยังจุดต้นน้ำเพื่อถ่อแพไปโป่งแง้น (แล้วแต่จะเลือกว่าจะเข้าโป่งแง้นด้วยวิธีไหน)
(ช่วงที่ 2 บ้านสบก๋าย-โป่งแง้น)
ถ้าเลือกวิธีเดินป่าข้ามเขาไปโป่งแง้น : รถโฟร์วีลจะมารอรับที่บ้านสบก๋าย ขับพาขึ้นเขาไปยังบ้านทุ่งยั๊วะ ระยะทาง 6 กิโลเมตร จุดที่รถจอดส่งจะมีร้านค้าชาวบ้านให้ซื้อขนมและเครื่องดื่มเป็นจุดสุดท้ายก่อนเดินเท้าเข้าป่า การเดินเข้าป่าข้ามเขาไปยังโป่งแง้นมี 2 เส้นทางให้เลือก คือ เส้นทางเดิน 4 กิโลเมตร และ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 2-4 ชั่วโมง โดยมีคนนำทางคือชาวบ้านโป่งแง้นผู้ชำนาญทางจะมารอรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่บ้านทุ่งยั๊วะ (ที่พักที่จองไว้ที่โป่งแง้นจะจัดเตรียมและนัดหมายคนนำทางให้)

ถ้าเลือกวิธีถ่อแพไม้ไผ่ไปยังโป่งแง้น : รถโฟร์วีลจะมารอรับที่บ้านสบก๋าย ขับพาขึ้นเขาผ่านบ้านทุ่งยั๊วะ ไปจนถึงบ้านป่าข้าวหลาม ระยะทาง 16 กิโลเมตร จากนั้นลงแพไม้ไผ่ ถ่อลงมาตามลำน้ำแม่แตง ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงบ้านโป่งแง้น (ที่พักที่จองไว้ที่โป่งแง้นจะจัดเตรียมแพและคนถ่อแพมารอที่บ้านป่าข้าวหลาม)


ขากลับจากโป่งแง้น สามารถเลือกที่จะเดินป่าข้ามเขากลับออกไป หรือจะถ่อแพออกไปยังจุดปลายน้ำที่บ้านสบก๋ายก็ได้

ถ้าเลือกเดินป่าข้ามเขากลับออกไป จะมีคนนำทางจากโป่งแง้นเดินนำไปส่งยังบ้านทุ่งยั๊วะ จากนั้นจะมีรถโฟร์วีลมารอรับไปส่งยังบ้านสบก๋าย ที่บ้านสบก๋ายจะมีจุดให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งทางที่พักที่โป่งแง้นจะประสานกับบ้านชาวบ้านที่สบก๋าย เตรียมจุดอาบน้ำและพักผ่อนชั่วคราวไว้รองรับ

ถ้าเลือกถ่อแพไม้ไผ่กลับออกไป จะมีคนถ่อแพจากโป่งแง้นพาออกไป ขากลับจากโป่งแง้นไปยังปลายน้ำที่บ้านสบก๋าย ระยะทางถ่อแพ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง ที่บ้านสบก๋ายจะมีจุดให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งทางที่พักที่โป่งแง้นจะประสานกับบ้านชาวบ้านที่สบก๋าย เตรียมจุดอาบน้ำและพักผ่อนชั่วคราวไว้รองรับ
ทริปนี้เรากับเพื่อน ๆ เดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก่อนไปได้จองที่พักบ้านโป่งแง้นไว้ล่วงหน้า ประมาณ 2 เดือน (ที่นี่กำลังฮอตและเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว จึงต้องจองล่วงหน้านาน ๆ)

พวกเราเลือกวิธีไปบ้านโป่งแง้นด้วยการเดินป่าข้ามเขา ระยะทาง 4 กิโลเมตร ส่วนขากลับเลือกวิธีถ่อแพไม้ไผ่กลับลงมาที่บ้านสบก๋าย ระยะทางถ่อแพ 9 กิโลเมตร

นัดกับทางที่พักโป่งแง้นว่าจะไปถึงบ้านสบก๋ายตอน 10 โมงเช้า พอไปถึงนำรถส่วนตัวไปจอดไว้ที่บ้านสบก๋าย จากนั้นขนสัมภาระเปลี่ยนขึ้นรถกระบะโฟร์วีลของชาวบ้านที่มารอรับไปยังจุดเริ่มเดินป่า
นั่งรถโฟร์วีล ระยะทาง 6 กิโลเมตร จากบ้านสบก๋ายมายังบ้านทุ่งยั๊วะ แวะอุดหนุนร้านค้าชาวบ้านซื้อน้ำหวานคนละขวด ไว้จิบดื่มเติมกลูโคสให้ร่างกายระหว่างเดินป่า

จุดนี้จะมีคนนำทางจากบ้านโป่งแง้นมารอรับคณะ เพื่อเดินป่าข้ามเขาไปยังหมู่บ้าน
ทางเดินช่วงแรกจะเดินตามถนนในหมู่บ้าน และเลี้ยวตัดเข้าป่าตรงดงกล้วยข้างหน้าทางซ้ายมือ
จากทางถนน พอตัดผ่านดงกล้วยมาก็เป็นทางเดินขึ้นเขา ช่วงแรกเป็นเนินหญ้าโล่ง ต่อด้วยเข้าเขตป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ เป็นทางชันแบบมีแต่ขึ้นอย่างเดียว 55+ ระยะทางช่วงนี้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เล่นเอาหอบรับประทาน เดินไปพักไปบ่อยมาก
พอเดินไต่ระดับขึ้นมาจนถึงยอดเขาลูกแรก จากนั้นก็จะเป็นทางราบบนสันเขา สลับมีเดินขึ้นเนินอีกเล็กน้อย ระยะทางช่วงนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร และระยะทางอีก 1.5 กิโลเมตรสุดท้าย คือการเดินลงเขาอย่างเดียวเลย
ในที่สุดเราก็เดินมาถึงบ้านโป่งแง้น ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 4 กิโลเมตร
โป่งแง้น เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีสิบกว่าหลังคาเรือนเท่านั้น ตั้งอยู่กลางป่าจริง ๆ ชาวบ้านมีรายได้จากการหาของป่าขาย และเปิดโฮมสเตย์ต้อนรับนักท่องเที่ยว และบริการถ่อแพไม้ไผ่นำเที่ยวตามลำน้ำแม่แตง
บ้านโป่งแง้นมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยว ได้แก่

“โป่งแง้นโฮมสเตย์ ที่พักในป่าใหญ่”
โทร. 08 4808 7663
Facebook : โป่งแง้นโฮมสเตย์ ที่พักในป่าใหญ่

“โป่งแง้น บ้านระเบียงดาวโฮมสเตย์ ที่พักลึกลับกลางป่า”
โทร. 06 5443 2166
Facebook : โป่งแง้น บ้านระเบียงดาวโฮมสเตย์ ที่พักลึกลับกลางป่า

“โป่งแง้นฮิมน้ำโฮมสเตย์”
โทร. 06 5440 0679
Facebook : โป่งแง้นฮิมน้ำโฮมสเตย์

“The Jungle Float and Camping :โป่งแง้น โป่งแง้น บ้านลอยฟ้า”
โทร. 09 0223 7044
Facebook : The Jungle Float and Camping :โป่งแง้น โป่งแง้น บ้านลอยฟ้า

โฮมสเตย์บ้านโป่งแง้น แต่ละหลังจะเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ บางบ้านเป็นห้องนอนรวม นอนได้ประมาณ 10 คน มีห้องน้ำแยกออกมาด้านนอกตัวบ้าน มีห้องครัวและอุปกรณ์เครื่องครัวให้ และจะมีบริการอาหารมื้อค่ำกับอาหารเช้ารวมอยู่ในค่าที่พักแล้ว

หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้า เวลากลางคืนจะใช้ไฟจากโซลาร์เซลล์ หรือจุดตะเกียงและก่อกองไฟกัน ฉะนั้นใครที่จะมาพักที่นี่ แนะนำให้เตรียมไฟฉายและ Powerbank ชาร์ตแบตโทรศัพท์มาให้พร้อม
พวกเราพักกันที่ “โป่งแง้นโฮมสเตย์ ที่พักในป่าใหญ่”

ที่พักนี้ติดลำน้ำแม่แตง จะมาพักคนเดียว มาสองคน หรือหลาย ๆ คนต่อกลุ่มก็ได้ แต่จะรับนักท่องเที่ยวเข้าพักวันละไม่เกิน 10 คน

ค่าที่พัก (ไม่รวมเครื่องดื่มทุกชนิด)
- ไม่รวมอาหาร 200 บาท/คน
- ที่พักรวมอาหารเช้า-เย็น คืนละ 500 บาท/คน

ค่าเดินป่าขาเข้า - ล่องแพออกขากลับ
- ค่ารถโฟร์วีลไปจุดเริ่มเดินคันละ 500 บาท (นั่งได้ 10 คน)
- คนนำทางเดินป่า 500 บาท/กลุ่ม
- ค่าแพไม้ไผ่ขากลับ 1,000 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 5 คน)
- คนนำถ่อแพ 500 บาท (คนถ่อ 1 คน/1 วัน/ลำ)

ค่าล่องแพขาเข้า - ล่องแพออกขากลับ
- ค่ารถไปจุดล่องแพ 1,000 บาท/คัน (นั่งได้ 10 คน)
- ค่าแพไม้ไผ่ขาเข้า 500 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 5 คน)
- ค่าแพไม้ไผ่ขากลับ 1,000 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 5 คน)
- คนนำถ่อแพ 1,000 บาท (คนถ่อ 1 คน/2 วัน/ลำ)

อาหาร
ตอนเย็นเป็นหมูกระทะ ตอนเช้าเป็นอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาล เช่น ยำหน่อ ปลาทอด น้ำพริก ผักสด พร้อมกาแฟสด ชา โอวัลติน (ค่าอาหารไม่รวมเครื่องดื่มทุกชนิด)
บนบ้านมี 3 ห้องพัก นอนได้ห้องละ 3-4 คน ส่วนห้องน้ำมี 2 ห้อง จะอยู่ด้านหลังตัวบ้าน เดินลงบันไดไปนิดเดียว
หน้าบ้านติดลำน้ำแม่แตง สามารถลงเล่นน้ำได้ ระดับน้ำประมาณเข่าถึงเอว แต่ต้องระวังหน่อยเพราะน้ำค่อนข้างไหลแรง
พื้นที่ส่วนกลางของบ้าน กลางคืนผู้เข้าพักจะมาทานมื้อค่ำและล้อมรอบกองไฟกันตรงนี้ รวมทั้งมื้อเช้าก็จะจัดมาให้ทานกันตรงนี้
ห้องนอน มีที่นอน หมอน และผ้าห่มให้พร้อมสรรพ

ถ้าในคืนนั้นมีผู้มาเข้าพักหลายกลุ่ม ก็จะแบ่งให้นอนแยกกลุ่มละ 1 ห้อง
ช่วงบ่ายเจ้าของ “โป่งแง้นโฮมสเตย์ ที่พักในป่าใหญ่” ชื่อว่า “คะหลู่” ชวนพวกเราไปเดินเล่นและจับปลาบริเวณต้นน้ำของหมู่บ้าน ซึ่งต้องเดินลัดเลาะเลียบริมลำน้ำแม่แตงย้อนขึ้นไปประมาณ 800 เมตร
บริเวณนี้พี่เค้าว่ามีปลาเยอะ เล่นน้ำก็สนุกอยู่
คะหลู่ โชว์ทอดแหจับปลา แต่สรุปไม่ได้ปลาสักตัว ได้กลับมาแค่เสียงหัวเราะและความสนุกสนาน 55+

เพราะที่นี่แทบจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เหมือนกับว่าช่วงเวลานั้นพวกเราได้ตัดขาดกับโลกภายนอกกันชั่วคราว จึงหันเหความสนใจมาอยู่กับความเป็นไปตรงหน้า ทำให้ได้ยินเสียงของธรรมชาติรอบตัวมากขึ้น
ด้วยเพราะที่นี่อยู่กลางป่า ไร้ซึ่งแสงไฟฟ้ารบกวน จึงมองเห็นดาวบนฟ้าได้สวยงามและชัดมาก ขนาดช่วงที่เราไปนั้นเป็นคืนเดือนหงาย ฟ้าสว่างจากแสงจันทร์ แต่ก็ยังคงเห็นดาวชัดอยู่ดี
เช้าวันถัดมา ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์กันแต่เช้า

คือทุกคนพร้อมใจกันตื่นโดยไม่มีใครปลุกใคร
อากาศยามเช้าหนาวเย็นใช้ได้ มีม่านหมอกลอยปกคลุมเหนือยอดไม้ใหญ่
บรรยากาศสดชื่นและเงียบสงบ เหมาะกับการพาตัวเองหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ และมาชาร์ตแบตเติมพลังให้ชีวิตมาก ๆ

ที่โป่งแง้นเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวและมีกิจกรรมถ่อแพไม้ไผ่ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่นิยมมาเที่ยวกันมากที่สุดมักจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำเยอะและอากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับการล่องแพไม้ไผ่
อาหารมื้อเช้าของที่นี่มาแบบจัดหนักจัดเต็ม

น้ำพริกอ่อง น้ำพริกถั่วเน่า มีฟักทองต้มกับถั่วฝักยาวและแตงกวาสดเป็นผักแนม ไข่เจียว แกงเห็ด ไข่ต้ม และหมกหมู จะบอกว่าเราได้ชิมทุกเมนู และอร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะน้ำพริกอ่องและน้ำพริกถั่วเน่า รสชาติมิชลินสตาร์มาก ๆ 55+
มองลงไปริมน้ำตรงหน้าบ้าน เห็นแพไม้ไผ่ถูกลากมาเตรียมรอพวกเราแล้ว

แต่ละคนแยกย้ายกันไปเตรียมตัว เก็บสัมภาระ ซึ่งชุดที่ใส่ติดตัวตอนล่องแพนั้น แนะนำว่าควรเป็นชุดพร้อมเปียก ทะมัดทแมง รองเท้าแตะ เพราะช่วงขาคือเปียกกันแน่นอน ส่วนกระเป๋านั้นควรเตรียมถุงพลาสติกหรือถุงขยะสีดำใบใหญ่มาคลุมและมัดปากถุงให้แน่น ก่อนจะนำไปแขวนไว้ที่จุดแขวนสัมภาระบริเวณหัวแพ
ประมาณ 9.30 น. ก็ได้เวลาพร้อมลงแพกันแล้ว

พวกเราไปกัน 10 คน จึงแบ่งกันล่องแพละ 5 คน
ในรูปคือตำแหน่งที่แต่ละคนต้องประจำบนแพ เพื่อความบาลานซ์ของแพระหว่างล่อง ป้องกันแพคว่ำระหว่างทางด้วย

เริ่มจากหัวแพ คนถ่อแพมือหนึ่ง เป็นชาวบ้านโป่งแง้นที่มีความชำนาญในการล่องแพ / คนที่ยืนคนที่สองด้านหลังคนถ่อแพมือหนึ่ง คือ พวกเราคนใดคนหนึ่ง โดยต้องยืนอยู่ตำแหน่งกลางแพ หลังจุดแขวนสัมภาระ คอยดูสัมภาระด้วย / คนที่นั่งจะมี 1-2 คน นั่งให้บาลานซ์กัน / คนถ่อแพมือสอง เป็นพวกเราคนใดคนหนึ่ง ตำแหน่งนี้ถ้าคนบนแพน้อยกว่านี้ก็ไม่ต้องมีก็ได้ / คนถ่อแพมือสาม อยู่ท้ายสุด เป็นพวกเราคนใดคนหนึ่ง

โดยคนถ่อแพควรแต่งตัวแบบพร้อมเปียก แนะนำให้เตรียมถุงมือไปใส่ด้วย เพราะมือต้องกำไม้ไผ่ที่ใช้ถ่อเป็นชั่วโมง
ทุกคนบนแพต้องเชื่อฟังและทำตามคำแนะนำของคนถ่อแพมือหนึ่งที่อยู่ด้านหน้า เส้นทางถ่อแพตลอดระยะทาง 9 กิโลเมตร จะมีทั้งช่วงที่ผ่านกระแสน้ำปกติ และช่วงที่ผ่านเกาะแก่งที่กระแสน้ำเชี่ยว ทุกคนต้องไม่โลดโผนและมีสติตลอดเวลา 55+

คนที่ยืนลำดับ 2 หลังจุดแขวนสัมภาระ และคนที่นั่งในตำแหน่งถัดไปสามารถหยิบกล้องมาถ่ายรูปได้ แต่ห้ามลุกเดินไปมาเด็ดขาด เพราะจะทำให้แพเสียสมดุล เสี่ยงต่อแพล่มได้

คนที่ถ่อแพ มือ 1-3 ห้ามหยิบมือถือหรือกล้องมาถ่ายภาพเด็ดขาด เพราะจะต้องมีสติฟังทิศทางการให้ถ่อไม้ไผ่จากคนถ่อมือ หนึ่งด้านหน้าตลอดเวลา และเสี่ยงกับการตกน้ำได้ทุกเมื่อ
กำลังจะถึงช่วงกระแสน้ำเชี่ยวที่รออยู่เบื้องหน้า

ระดับน้ำเฉลี่ยช่วงที่เราไปล่องแพจะอยู่ที่เข่าถึงเอว เห็นน้ำเชี่ยว ๆ ดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วไม่ลึก แต่ก็จะมีบางจุดระหว่างทางที่ค่อนข้างลึก ส่วนใหญ่จุดนั้นจะไม่ใช่จุดที่เป็นกระแสน้ำเชี่ยว

พี่คนถ่อแพมือหนึ่งที่เป็นชาวบ้านโป่งแง้นเค้าเก่งมาก ๆ สามารถพาพวกเราฝ่ากระแสน้ำและเกาะแก่งต่าง ๆ ไปได้ ตลอดระยะทาง 9 กิโลเมตร มีช่วงที่เป็นแก่งและน้ำเชี่ยวเกือบสิบจุด สร้างความตื่นเต้นกันไปตลอดทาง
หลังจากถ่อแพกันมาเกือบ 2 ชั่วโมง พวกเราก็มาถึงที่บ้านสบก๋าย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของกิจกรรมถ่อแพในเส้นนี้

บริเวณบ้านสบก๋ายจะมีที่พักทั้งรีสอร์ท โฮมสเตย์ และร้านอาหารรองรับนักท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน บางคนไม่ได้มาล่องแพก็มาเที่ยวชมบรรยากาศและเล่นน้ำได้
พวกเราขึ้นจากแพ ตรงมายังจุดอาบน้ำซึ่งเป็นเรือนพักหลังใหญ่ซึ่งทางที่พักที่โป่งแง้นได้ประสานจัดเตรียมไว้ให้ ที่นั่นมีห้องอาบน้ำหลายห้อง พอแต่ละคนอาบน้ำและจัดสัมภาระกันเรียบร้อย ก็ขึ้นรถเดินทางกลับกัน
โป่งแง้น ... สำหรับเราเป็นจุดหมายปลายทางที่ไปมาแล้วรู้สึกประทับใจและดีใจที่ได้ไป ที่พักและการเดินทางเข้าออกอาจจะไม่ได้สะดวกสบาย แต่นั่นก็เป็นประสบการณ์พิเศษที่เราสามารถหามาเติมเต็มให้ชีวิตได้ในวันที่เรายังมีแรงที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้อยู่ 55+

หวังว่าข้อมูลในรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการแพลนทริปของเพื่อน ๆ เพื่อพาตัวเองไปใกล้ชิดธรรมชาติทั้งขุนเขาและสายน้ำนะคะ
cr.https://pantip.com/topic/41141342


0 คอมเม้นต์

แสดงความคิดเห็น

Copyright 2019 © Tour Planet. All rights reserved.
Powered by Need Soft